ปัจจุบันสตรอเบอรี่ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์จนสามารถปลูกในพื้นที่อื่นๆ ได้นอกจากภาคเหนือของประเทศแล้ว แต่ถึงแบบนั้นความใส่ใจต่อการหาพื้นที่สำหรับปลูกยังคงต้องให้ความสำคัญ ซึ่งมีอะไรบ้างมาฟังกันค่ะ
ทำเล
การเลือกทำเลในการปลูกสตรอเบอรี่ต้องคำนึงถึงระดับของพื้นที่ ต้องสามารถป้องกันการชะล้างของหน้าดิน มีการถ่ายเทอากาศได้ดี พื้นที่มีความเอียงลาดเล็กน้อยและต้องไม่มีน้ำค้างในช่วงการออกดอกด้วย สตรอเบอรี่เป็นพืชที่มีโรคแมลงคล้ายกับมะเขือ พริก และมันฝรั่ง เพราะงั้นหากปลูกสตรอเบอรี่ทันทีหลังจากปลูกพืชเหล่านี้อาจทำให้สตรอเบอรี่ประสบปัญหาจนส่งผลต่อผลผลิตได้ และหากจำเป็นที่จะต้องปลูกในบริเวณนี้ควรเว้นห่างการปลูกพืชเหล่านั้นแล้วอย่างน้อย 3 ปี รวมถึงพื้นที่ที่เป็นป่ารกและมีการถางเพียงปลูกสตรอเบอรี่โดยเฉพาะ เนื่องเพราะอาจมีตัวอ่อนของด้วงคอยกัดกินรากพืชได้นั้นเอง จึงควรมีการกำจัดจนแน่ใจแล้วถึงค่อยปลูกสตรอเบอรี่ต่อไป
ดิน
สตรอเบอรี่ชอบดินที่มีความเป็นกรดอ่อน pH อยู่ที่ 5.8 – 6.5 ไม่ทนต่อสภาพดินเค็ม ไม่ควรปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินเหนียวอยู่มาก เพราะแม้ว่าดินเหนียวจะมีจำนวนอินทรียวัตถุอยู่มาก แต่สภาพการระบายน้ำทำได้ไม่ดีจะทำให้สตรอเบอรี่อยู่ในสภาวะรากแช่น้ำจนทำให้รากเน่าได้ แถมดินเหนียวมีความหนาแน่นของโครงสร้างมาก การชอนไชของรากจึงเป็นไปด้วยความลำบากด้วยเช่นกัน
ศึกษาประวัติของพื้นที่ก่อน
การศึกษาประวัติของพื้นที่ก่อนก็เพื่อให้ทราบแน่ว่าในพื้นที่นี้เคยมีการระบาดของโรคพืชอะไรมาก่อนหรือไม่ เพราะหากมีย่อมมีโอกาสอยู่มากที่โรคพืชเหล่านั้นจะยังมีอยู่ในพื้นที่ และอาจส่งผลต่อสตรอเบอรี่ของเราได้ เช่น เคยมีการระบาดของโรครากเน่า โรคเหี่ยว เป็นต้น
•นอกจากสตรอเบอรี่แล้วยังสามารถนำ 3 ข้อนี้ไปปรับใช้กับพืชชนิดอื่นๆ ได้ด้วย เพียงแค่เราต้องศึกษาในพืชที่จะปลูกให้เข้าใจถึงลักษณะการเจริญเติบโตและโรคแมลงที่เกี่ยวข้องเท่านั้นเอง
First Organic Farm Co.,Ltd.