เคยเจอปัญหาที่ว่า… “ปุ๋ยถึง น้ำถึง แต่ต้นทุเรียนก็ยังโทรม” อยู่ไหม?

     ซึ่งปัญหาที่เกิดล้วนเป็นไปได้หลากหลายกรณี ทั้งเกิดจากโรคพืชและแมลงเข้าทำลาย หรือสภาพดินที่อาจจะไม่เอื้อต่อการปลูก หรือรากทุเรียนมีปัญหาขณะขนย้ายหรือเอาลงปลูกทำให้เกิดการเจริญเติบโตที่ชะงัก ทว่า…อีกสิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยอย่างสิ่งใกล้ตัวนั้นก็คือ…การให้ปุ๋ยและน้ำที่พอเหมาะพอควรและถูกช่วงเวลาหรือไม่? วันนี้เราจึงขอนำวิธีและปริมาณที่เหมาะสมในการให้น้ำและปุ๋ยของสถาบันวิจัยพืชสวนมาบอกต่อเพื่อนำไปปรับใช้กันค่ะ

     ทุเรียนก็เหมือนกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่แต่ละช่วงระยะเวลามีความต้องการอาหารที่มากน้อยแตกต่างกัน อย่างในช่วง 1 – 5 ปี เป็นช่วงที่ต้นทุเรียนกำลังมีการเจริญเติบโตเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับโครงสร้างต่าง เพื่อให้พร้อมต่อการที่จะออกดอกออกผลในอนาคตต่อไป ซึ่งปริมาณน้ำที่เหมาะสมในช่วงนี้อยู่ที่ 80 – 120 ลิตรต่อต้นต่อปี และมีการให้ปุ๋ยอินทรีย์ 20 – 30 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ร่วมกับปุ๋ยเคมีในอัตรา 1 ใน 3 ส่วนของทรงพุ่ม เช่น ทรงพุ่มมีขนาด 6 เมตร จึงควรให้ปุ๋ยเคมีที่ 2 กิโลกรัม (6 หาร 3 เท่ากับ 2 นั่นเอง)

     ในระยะต่อมาเข้าสู่ช่วงของการกระตุ้นให้ต้นทุเรียนออกดอก ปกติทุเรียนมักจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ในช่วงก่อนที่ฝนจะทิ้งช่วงในเดือนตุลาคม – พฤศจิกายนควรมีการใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ในอัตรา 1 ใน 3 ของทรงพุ่ม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทุเรียนออกดอก หลังจากนั้น 1 เดือน ควรงดการให้น้ำไม่น้อยกว่า 10 วัน

     เมื่อทุเรียนเริ่มออกดอกจึงควรเริ่มให้น้ำ 1 ใน 3 ของอัตราปกติที่เคยให้ และเมื่อเข้าระยะไข่ปลาให้พ่นด้วย 13-0-46 ในอัตรา 100 – 200 ลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณการให้น้ำจนกระทั้งเท่าปกติ โดยต้องระวังไม่ให้น้ำโดนดอกเพื่อป้องกันการเน่าหรือหลุดร่วงหรือดอกเปลี่ยนเป็นยอดอ่อนได้

     ต่อมาในระยะติดผล ระยะนี้จะเริ่มมีการลดจำนวนผลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ได้ขนาดหรือคุณภาพ โดยให้เหลือไว้ประมาณ 60 ผลต่อต้น การให้น้ำอยู่ที่ 80 – 110 ลิตรต่อต้น ในทุก 3 – 4 วัน บำรุงด้วยปุ๋ย 8-24-24 ในอัตรา 1 ใน 3 ของขนาดทรงพุ่ม

     และสุดท้ายในช่วงหลังการเก็บเกี่ยวควรให้น้ำอยู่ที่ 80 – 110 ลิตรต่อต้น ทุก 3 – 4 วัน และบำรุงฟื้นฟูต้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์ 20 – 50 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับการให้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ (15-15-15 หรือ 16-16-16) ปริมาณ 1 ใน 3 ของทรงพุ่ม